Spotlight

พรปีใหม่ ๒๕๖๗ โดย พระอาจารย์ชยสาโร

รับฟังแง่คิด คติธรรม พรอันเป็นมิ่งมงคล เมื่อเข้าสู่เทศกาลต้อนรับปีใหม่ ปีมะโรงนี้


สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ เริ่มต้นศักราชใหม่ เทศกาลแห่งความสุข ที่หลายคนต่างส่งความสุขให้แก่กัน ปรารถนาให้คนที่เรารักประสบแต่สิ่งที่ดีๆ ISSARA LIFE EP. แรกของปี จึงขอนำพรปีใหม่ ๒๕๖๗ จากพระธรรมพัชรญาณมุนี (พระอาจารย์ชยสาโร) เพื่อรับฟังแง่คิด คติธรรม พรอันเป็นมิ่่งมงคล เมื่อเข้าสู่เทศกาลต้อนรับปีใหม่ ปีมะโรงนี้

พรปีใหม่ ๒๕๖๗

เจริญพรญาติโยมทุกคน ก็ปีใหม่มาอีกแล้ว มาเร็วจัง เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี เราทุกคนแก่ลงหนึ่งปี เวลาเหลืออยู่น้อยลงหนึ่งปี พรนี้มันสั้นเลยต้องพูดตรงๆ ให้เราได้สำนึก ให้เราได้ตระหนักในความเป็นมนุษย์ของเรา ทำอย่างไรมันจึงจะได้ดี

ทุกวันนี้ได้ยินคำพูดคำใหม่ที่สมัยก่อนไม่ค่อยได้ยิน ตอนนี้แฟชั่นใหม่ว่า ‘ข้าพเจ้าหรือฉันนี่ไม่ดีพอ’ คำนี้ไม่ต้องใช้เอาไปทิ้งเลย คำนี้มันเกิดจากความคิดผิด ทีนี้เราต้องเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ดี’ แล้วไม่ใช่ว่าเราไม่ดีพอ เราต้องเปลี่ยนว่า บางสิ่งบางอย่าง ยังทำ-ไม่ดีพอ ยังพูด-ไม่ดีพอ ยังคิด-ไม่ดีพอ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเป็นอย่างนั้นตลอดไป


ปีนี้อยากจะขอให้ทุกคนให้โอกาสพุทธศาสนามากขึ้น ให้เกียรติพุทธศาสนามากขึ้น โดยเฉพาะในภาคปฏิบัติ ศรัทธาของชาวพุทธพิสูจน์ได้อย่างไร ไม่ใช่พิสูจน์ว่าเชื่อจริงๆ เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ มันอยู่ที่วิถีชีวิต อยู่ที่การดำเนินชีวิต พอเราเชื่อแล้วเราก็ต้องพยายามพิสูจน์ว่า สิ่งที่เราเชื่อจริงหรือไม่จริง เราจะเชื่ออย่างไร ก็เอาคำสอนของพระพุทธเจ้า เหมือนเป็นเครื่องมือ หรือเป็นยารักษาโรค เอาไปใช้ เอาไปทาน แล้วได้ผลอย่างที่พระพุทธเจ้าและพระอริยสาวกทั้งหลายได้สั่งสอนหรือไม่ ยังไม่ต้องเชื่อมาก เชื่อพอที่จะเอาเป็นสมมติฐานเอาไปพิสูจน์

คนเรานี้ดีกว่านี้ได้คือการกระทำของเราดีกว่านี้ได้ การพูดของเราดีกว่านี้ได้ ความคิดของเราดีกว่านี้ได้ แต่จะดีได้ก็ไม่ใช่ด้วยความหวัง หรือด้วยพิธีกรรม หรือด้วยการอ้อนวอนใคร แต่อยู่ที่เรารับผิดชอบชีวิตของตัวเอง รับผิดชอบชีวิตของตัวเองคือรับผิดชอบการกระทำ การพูด การคิด คำสอนของพระพุทธเจ้าเนี่ยมีสิ่งล้ำค่าเลย

ฉะนั้น อย่าไปสนใจแต่เรื่องที่ให้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ชั่วคราว นำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเอาไปใช้ เพื่อเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ไม่เหลือวิสัยของมนุษย์นะ มนุษย์เรามีศักยภาพมากกว่า ยิ่งกว่าที่คิด เราลองมาดู เพราะว่าถ้าเราใช้ชีวิตด้วยการให้ทาน ด้วยการทำความดี ด้วยการเสียสละ ด้วยการสร้างครอบครัว สร้างชุมชนให้อบอุ่น มีความซื่อสัตย์ต่อกันและกัน ความเคารพต่อกันและกัน ความให้อภัยซึ่งกันและกัน ความเมตตากัน จะนำไปสู่ความสุขใช่หรือไม่ ทีนี้ถ้าเราต้องการความสุข ไม่ใช่ว่าจะจัดสรรสิ่งแวดล้อมพอ ต้องฝึกจิตใจไปด้วย เพราะสิ่งที่ทำให้จิตใจเรามีทุกข์ หดหู่ ซึมเศร้า วิตกกังวลต่างๆ ก็อยู่ที่ใจมากกว่าอย่างอื่น

ฉะนั้น เราต้องจัดสรรทั้งภายนอกภายในพร้อมๆ กัน อันนี้เรียกว่าเป็นการให้เกียรติพุทธศาสนา สำนึกในบุญคุณของพุทธศาสนา ด้วยการเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาพัฒนาชีวิต ให้พัฒนาครอบครัว พัฒนาชุมชน พัฒนาสังคม ก็ขอให้ทุกคนตั้งอกตั้งใจใช้พุทธศาสนา ใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ชีวิตครอบครัวเราดีขึ้น ชีวิตของทุกคนในสังคมดีขึ้น ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญตลอดกาลนานเทอญ

พระอาจารย์ชยสาโร