เผลอแป๊ปเดียวย่างเข้าสู่เดือน ธันวาคม ซึ่งถือเป็นช่วงแห่งการเตรียมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นในการกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเรามักจะเห็นความคึกคักของภาคธุรกิจที่ออกมาจัดงานอีเวนต์ จัดกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานที่หลายท่านจับตามองว่าปีนี้จะมีการเตรียมของขวัญด้วยนโยบายอะไรบ้าง เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขให้กับชาวกรุงเทพฯ ซึ่งก็คือกรุงเทพมหานคร นั่นเอง

วันนี้ Issara Life Blog ก็ไม่พลาดที่จะพาท่านผู้อ่านมาเตรียมความพร้อมไปกับคณะทำงาน “รองผู้ว่าศานนท์ หวังสร้างบุญ" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หนึ่งในทีมบริหาร กทม. ของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้มาเล่าถึงนโยบาย และกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบไปพร้อมๆ กัน

รองผู้ว่าศานนท์ เปิดบทสนทนาให้ทีม Issara Life Blog ฟังว่าในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาร่วมเป็นทีมบริหารกรุงเทพมหานคร ดังนั้นอยากให้ปีนี้เป็นปีที่พิเศษ เพราะที่ผ่านมาพวกเราได้ติดอยู่ในช่วงวิกฤติ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มานานกว่า 3 ปี ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย คณะทำงานของเราอยากจะใช้โอกาสนี้ทำให้ทุกคนได้กลับมามีชีวิต ชีวา เรียกนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง ซึ่งความท้าทายที่สำคัญไม่ใช่แค่การกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเฉพาะใน กทม. เท่านั้น แต่เรายังต้องการให้ทุกเมืองกลับมามีชีวิต ชีวา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับประเทศเราต่อไป

ในส่วนของ กทม.เรามีการทำปฎิทินกิจกรรมประจำปีวางไว้ว่าในแต่ละเดือนจะมีการจัดกิจกรรมอะไรบ้างเพื่อเป็นการสร้างสีสัน และชีวิตชีวา ให้กับชาว กทม. ซึ่งปกติทุกเดือนจะมีจัดหนังกลางแปลง เทศกาลวิทยาศาสตร์ และสำหรับในช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือน พ.ย. ธ.ค. รวมไปถึงเดือน ม.ค. 66 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น กทม.เลยรวบงานต่างๆ มาไว้ในช่วงนี้ให้เป็นเทศกาล Colorful Bangkok หรือ เทศกาลกรุงเทพฯสีสัน ซึ่งจะเต็มไปด้วยแสง สี เสียง ศิลปะ ดนตรี เมื่อออกมาจากบ้านมาก็จะมีหลากหลายงาน ให้คน กทม.ได้เลือกว่าจะไปไหน อย่างในปัจจุบันจะมีงานแสงสีริมเจ้าพระยา ซึ่งเพิ่งเปิดไปช่วงต้น พ.ย.มีการโชว์พลุให้ชม 3-4 รอบทุกวัน

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบางกอกบานฉ่ำ หนึ่งในกิจกรรมของเทศกาล Colorful Bangkok ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศิลปะชุมชนใน 21 ย่าน 16 เขต ซึ่งจะจัดไปตลอดจนถึง ธ.ค. เพื่อเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน ในการพัฒนาให้เป็นย่านสร้างสรรค์ ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยแต่ละชุมชนจะจัดงานกันเอง เขตเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวก ภายในงานจะมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ ดนตรีในสวน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นสุนทราภรณ์ ชมรมลีลาส ที่สามารถเข้ามาร่วมกิจกรรมได้ฟรี

“งานเทศกาลต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้คนหมุนเวียน เกิดการรวมตัวของผู้คน เศรษฐกิจหมุนเวียน หน้าที่เราคือทำยังไงให้กรุงเทพเป็น Destination ให้เขาได้ไปร่วมกิจกรรมได้หลายจุด เราพยายามที่จะกระจายกิจกรรมให้ทั่วเมือง เพื่อให้คนมาอยู่กรุงเทพฯ นานขึ้น ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพฯ เป็น Destination แบบเปลี่ยนผ่านไปแล้ว ภาระกิจสำคัญของเราคือต้องทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวอยู่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ให้นานยิ่งขึ้นนั่นเอง”

รองผู้ว่าศานนท์ ยังเล่าให้ฟังต่อว่า สถานที่ในการจัดกิจกรรมเรามีสถานที่เดิมๆ ที่สามารถรองรับการจัดงานได้อยู่แล้ว แต่เราพยายามที่จะเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละที่มีการดูแลไว้ดีอยู่แล้ว มีความเข้มแข็งของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นย่านเยาวราช ข้าวสาร ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือทำอย่างไรถึงจะสร้างจุดขายให้กับเมืองของเราให้สามารถสู้กับสิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ได้ ทำอย่างไรที่จะทำให้คนไทยเราเองอยากออกมานอกบ้านด้วย ดังนั้นเราก็ต้องเติมเทศกาลต่างๆ เข้าไป เป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นในช่วง 3 เดือน พ.ย. ธ.ค. ยาวไปถึง ม.ค. 66 จะมีการกิจกรรมกว่า 200 กิจกรรม โดยมีภาคีหลายร้อยภาคีที่เข้ามาร่วมมือกัน

และอีกกิจกรรมหลักๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไฮไลท์ คือการจัดสวดมนต์ข้ามปี แต่เดิมที่ทุกๆ วัดมีการจัดที่ดีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของ กทม.ได้มีแพลนที่จะรวบกิจกรรมดังกล่าวมาไว้ในวันที่ 9 ม.ค.66 นี้ โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์จากวัดดังทั่ว กทม. มาร่วมให้พรปีใหม่เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ทุกท่านที่มาร่วมงาน โดยสถานที่จัดงานอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกิจกรรมอื่นๆ รองผู้ว่าศานนท์ เล่าให้ฟังว่ายังมีงาน AWAKENING BANGKOK 2022 ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย 16-25 ธ.ค.65 เทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Endless Tomorrow : เพื่อพรุ่งนี้ และตลอดไป” จุดประกายย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เจริญกรุง-ตลาดน้อย ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ทาง ประวัติศาสตร์ให้กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวา พร้อมเปิดพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ เกี่ยวกับชีวิตความยั่งยืนในมิติ ต่างๆ เพื่อชีวิตในอนาคตที่ยืนยาวและเป็นมิตรสำหรับทุกคน ทั้งรุ่นนี้ และรุ่นต่อไป นอกจากนี้ยังมีงาน UNFOLDING BANGKOK Hidden Temple ท่องวัดลับ I Greeting Benjakitti เที่ยวสวนป่ากลางเมือง I Living Old Building ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ ที่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน พ.ย.65-มี.ค.66 ในพิกัดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอประเทศไทยและวัฒนธรรมไทยในมิติที่น่าสนใจ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการจัด กิจกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและ ต่างประเทศ ให้มาร่วมเช็กอินสถานที่ที่หลากหลาย ตั้งแต่สวนป่ากลางเมือง จนถึงอาคารและวัดเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ถูกนำมาถ่ายทอดแบบร่วมสมัย

HIDDEN TEMPLE เป็นการเปิดประสบการณ์ท่อง 5 วัดลับย่านฝั่งธนฯ 12 พ.ย.-31 ธ.ค.65 เปลี่ยนโหมดจาก Cafe Hopping ที่คุ้นเคยมาเป็น Temple Hopping สัมผัสเรื่องราวของพุทธศาสนาและการตกแต่ง สถาปัตยกรรมของวัดในมุมมองใหม่แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ผ่านแสง สี และเสียงอันงดงามชวนต้องมนต์ขลัง ณ 5 วัดลับในย่านฝั่งธนบุรีของกรุงเทพฯ พร้อมอุดหนุนสินค้าจากตลาดนัดชุมชน เพลิดเพลินกับการท่อง Creative Tour เพื่อเรียนรู้อัตลักษณ์ของย่านไปพร้อมกับการชมการแสดงที่ถูกคัดสรรมาให้เข้ากับบริบทในพื้นที่

GREETING BENJAKITTI เที่ยว “เบญจกิติ” ชมงานศิลป์ กลางสวนป่า 14 ม.ค.-12 ก.พ.66 สวนป่าเบญจกิติ ต้นแบบสวนสาธารณะเชิงนิเวศแห่งแรกของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สันทนาการและการเรียนรู้เกี่ยวกับ ระบบนิเวศกลางเมือง โดยกิจกรรมจะแบ่งออกเป็นการค้นหาศิลปะจัดวาง (Art Installation) ที่ถูกจัดวางให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ การชมศิลปะการแสดง และเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปที่กระจายอยู่ในพื้นที่ เพื่อช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับผู้เข้าชม โดยเฉพาะ กลุ่มเยาวชน ให้ได้เรียนรู้การเป็นส่วนหนึ่งของกลไกในการฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม

LIVING OLD BUILDING ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ 4 พื้นที่กรุงเทพฯ 4 ก.พ.-5 มี.ค.66 ค้นพบเสน่ห์ของอาคารประวัติศาสตร์ที่ข้ามผ่านกาลเวลาและได้กลายเป็นพื้นที่ปิดในปัจจุบัน ย้อนการเกิดขึ้นของ อาคารและพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในย่านเก่าให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ คืนความมีชีวิตให้กับ อาคารเก่าอันทรงคุณค่า ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับรูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคาร ทั้งศิลปะจัดวาง นิทรรศการ ทัวร์แบบเจาะลึกในพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ไฮไลท์ของเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566

และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมงานต่างๆ ที่ กทม.เตรียมไว้ให้กับชาวกรุงเทพฯ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้มีเช็คลิสต์เตรียมสัมผัสประสบการณ์ วัฒนธรรม ชมวิถีความเป็นไทย ไปกับเทศกาลที่มีชีวิต ชีวา กันแบบเต็มอิ่มในช่วงปลายปีนี้ และยาวไปจนถึงต้นปี 2566 โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดปฏิทินกิจกรรมกันได้ที่ www.bangkokartcity.org